พัดลมไอเย็น พัดลมไอน้ำ ทางเลือกใหม่ของความเย็นในราคาถูก

พัดลมไอเย็น หรือพัดลม ไอน้ํา ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทของพัดลมที่ช่วยทำให้อากาศภายในห้องเย็นสดชื่นขึ้นได้ และยังได้ความเย็นที่มากกว่าพัดลมแบบธรรมดา แม้จะยังได้ความเย็นไม่เท่าแอร์แต่พัดลมไอน้ำ ราคาถูกก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ยิ่งอยู่ในประเทศไทยที่ส่วนใหญ่มีอากาศร้อนอบอ้าว พัดลมไอน้ํา ราคาพิเศษของ FANPROTHAILAND จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้ห้องของคุณมีอากาศที่เย็นขึ้น สดชื่นขึ้น ไม่ต้องทนร้อนอบอ้าวกันอีกต่อไปถ้ามีพัดลมไอเย็นจากยี่ห้อ Mitsubishi และ Kruger ของเรา
พัดลมไอเย็น หรือพัดลม ไอน้ํา คืออะไร ต่างจากพัดลมธรรมดาอย่างไร?
พัดลมไอเย็น หรือพัดลม ไอน้ํา (Stream Fan) เรียกกันแบบง่ายๆ ก็เป็นพัดลมประเภทหนึ่งที่ใช้หลักการระเหยของน้ำเพื่อช่วยให้อากาศเย็น สามารถใช้งานได้ดีในห้องขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง และในห้องไม่ควรมีอากาศร้อนจัด ลมเย็นที่ได้จะมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้อากาศแห้ง และไม่เย็นจัดแบบการเปิดแอร์ ภายในตัวเครื่องของพัดลมไอเย็นจะมีแผ่นทำความเย็น (Cooling Pad) อยู่ด้านใน หรือมีถังสำหรับเก็บน้ำ เมื่อเปิดใช้งานมอเตอร์จะดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาผ่านแผ่นทำความเย็นจากนั้นก็จะปล่อยหมอกไอน้ำออกมาผ่านใบพัด ดังนั้นลมที่ได้จากพัดลมไอเย็นจึงเย็นและสดชื่นกว่าพัดลมแบบธรรมดา สามารถใช้ได้ทั้งการลดอุณหภูมิห้องในบ้าน ไปจนถึงในระดับอุตสาหกรรมที่ใช้หมอกไอน้ำเพื่อลดความเข้มข้นของสารเคมีหรือควันที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศเลยทีเดียว

พัดลมไอเย็น กินไฟไหม
สำหรับใครที่อยากรู้ว่าพัดลมไอน้ํา กินไฟไหม ถ้าเทียบกับพัดลมทั่วไปที่กินไฟประมาณ 45-80 วัตต์แล้ว พัดลมไอเย็นขนาดต่างๆ จะกินไฟโดยเฉลี่ยประมาณ
- พัดลมไอเย็นขนาดเล็ก ใช้ไฟประมาณ 50-80 วัตต์
- พัดลมไอเย็นขนาดกลาง ใช้ไฟประมาณ 80-120 วัตต์
- พัดลมไอเย็นขนาดใหญ่ ใช้ไฟประมาณ 120-180 วัตต์
สาเหตุที่พัดลมไอเย็นกินไฟมากกว่าเพราะมีระบบทำความเย็นเพิ่มเข้ามา นอกจากค่าเฉลี่ยที่ระบุว่าพัดลมไอเย็น กินไฟไหม แล้วก็ยังมีสูตรคำนวณค่าไฟอย่างง่าย ได้แก่
- ((จำนวนวัตต์ ÷ 1,000) × จำนวนชั่วโมงที่ใช้งาน) × ค่าไฟต่อหน่วย = ค่าไฟฟ้าต่อวัน
พัดลมไอน้ํา ดีไหม มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง
หลายคนที่กำลังสงสัยว่าพัดลมไอน้ํา ดีไหม เย็นจริงไหม ใช้แล้วมีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรบ้าง วันนี้ทาง FANPROTHAILAND ของเราก็มีคำตอบมาฝากกัน

พัดลมไอเย็น ข้อดีคืออะไร
พัดลมไอเย็น ข้อดีหลักๆ จะมีอยู่ 3 ข้อ ได้แก่
- ประหยัดไฟ: ถ้าเทียบกับเครื่องปรับอากาศแล้วพัดลมไอเย็นถือว่าใช้ไฟน้อยกว่ามาก แม้จะใช้ไฟมากกว่าพัดลมแบบธรรมดานิดหน่อยแต่ก็ได้ความเย็นเพิ่มได้หลายเท่า ถ้าอยู่ในห้องที่อากาศไม่ร้อน ไม่มีการสะสมของไอความร้อน พัดลมไอน้ําตัวใหญ่จะให้ความเย็นได้สูงไม่แพ้เครื่องปรับอากาศเลยทีเดียว
- ไม่เกิดมลพิษ: เพราะพัดลมไอเย็นไม่ใช้สารเคมีอันตรายในการทำความเย็น ความเย็นที่ได้จะมาจากระบบ Air Cooler ภายในเครื่องหรือไอน้ำที่พัดออกมาเท่านั้น การใช้งานจึงมีความปลอดภัย ความชื้นในอากาศเพิ่มมาแค่เล็กน้อย ไม่มีละอองน้ำมารบกวน หลายครั้งพัดลมไอเย็นยังให้ผลดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งหรือมีปัญหากับระบบทางเดินหายใจอีกด้วย
- ใช้งานง่าย: พัดลมไอเย็นมีระบบที่ใช้งานง่ายพอๆ กับพัดลมธรรมดา แค่เติมน้ำแล้วเสียบปลั๊กก็เปิดใช้งานได้ทันที หลายรุ่นมีรีโมตคอนโทรลให้ตั้งค่าได้จากระยะไกล มีล้อเลื่อนให้เคลื่อนที่ไปตั้งตามจุดต่างๆ ที่ต้องการได้ง่าย สามารถใช้งานได้ทุกห้องทั้งในบ้านและนอกบ้าน
พัดลมไอเย็น ข้อเสียคืออะไร
พัดลมไอน้ํา ข้อเสียหลักๆ จะมีอยู่ 3 ข้อ ได้แก่
- ต้องเติมน้ำบ่อย: เพราะพัดลมไอเย็นจะใช้น้ำเปล่ามาสร้างเป็นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความเย็น ดังนั้นจะต้องคอยเติมน้ำอย่างสม่ำเสมอ และต้องทำความสะอาดบ่อยเพื่อไม่ให้มีการสะสมของเชื้อโรคต่างๆ หรือมีกลิ่นอับ
- ไม่เหมาะกับห้องปิดที่ความชื้นสูง: แม้พัดลมไอเย็นจะเพิ่มความชื้นภายในห้องไม่มากนัก แต่สำหรับห้องปิดที่มีความชื้นสูงอยู่แล้วก็อาจทำให้มีความชื้นในอากาศสูงเกินไปได้ ส่งผลเสียต่อผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจส่วนใหญ่ และอาจเกิดปัญหาปอดชื้น ปอดบวม หอบหืด โรคภูมิแพ้ หรือเชื้อราได้
- กระจายลมได้ไม่กว้าง: พัดลมไอเย็นมักจะมีรูปทรงเป็นลักษณะตู้ ดังนั้นการกระจายลมจึงทำได้ไม่กว้างเท่าพัดลมธรรมดาทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วพัดลมไอเย็นจึงเหมาะกับห้องขนาดเล็กมากกว่า
พัดลมไอเย็นมีกี่ประเภท แบบไหนดีกว่ากัน
พัดลม ไอน้ํา ในปัจจุบันจะผลิตออกมาเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ พัดลมไอน้ำ ตั้งพื้น และ พัดลม ไอน้ํา แบบติดผนัง ซึ่งก็จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ดังนี้

พัดลมไอน้ำ ตั้งพื้น
พัดลมไอน้ำ ตั้งพื้น หรือ Floor Air Cooler เป็นพัดลมไอเย็นที่ใช้หลักการตั้งวางบนพื้นแบบเดียวกับพัดลมธรรมดาทั่วไป ข้อดีของพัดลมไอน้ำ ตั้งพื้น คือเคลื่อนย้ายสะดวก สามารถนำไปใช้ได้กับทุกห้องในบ้าน แต่ก็จะมีข้อเสียคือต้องเติมน้ำอยู่บ่อยๆ เพราะพัดลมไอน้ำ ตั้งพื้น มักจะใช้ระบบการเติมน้ำเข้าไปในถังแทนการต่อจากท่อโดยตรง
พัดลม ไอน้ํา ติดผนัง
พัดลม ไอน้ํา แบบติดผนัง หรือ Wall-Mounted Air Cooler เป็นพัดลมไอเย็นที่ใช้หลักการติดตั้งแบบถาวรเอาไว้บนผนังห้องโดยตรง ซึ่งจะมีทั้งพัดลมไอน้ําขนาดใหญ่และขนาดเล็ก สำหรับพัดลมไอเย็นตัวใหญ่มักจะใช้ระบบต่อท่อน้ำประปาเข้ามาโดยตรง ส่วนพัดลม ไอน้ํา ขนาดเล็กก็จะมีทั้งระบบการต่อสายท่อน้ำและการเติมน้ำแบบธรรมดา ข้อดีคือมักจะได้ความเย็นที่ดีกว่าแบบตั้งพื้น แต่ก็มีข้อเสียตรงที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ และดูแลรักษายากกว่า
วิธีเลือกพัดลม ไอน้ํา ให้เหมาะกับห้องของคุณ
หลักในการเลือกซื้อพัดลม ไอน้ํา จะเริ่มตั้งแต่ควรพิจารณาว่าต้องดูพัดลมไอน้ํา ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพสูงๆ และได้คุณสมบัติการใช้งานในแบบที่ต้องการ และจะมีปัจจัยที่ควรนำมาใช้พิจารณาเลือกซื้อทั้งหมดดังนี้

เลือกให้เหมาะกับขนาดห้อง
หลักการแรกเพื่อเลือกพัดลมไอเย็นที่เหมาะสมจะต้องดูให้เหมาะกับขนาดห้องเป็นหลัก
- ห้องขนาดเล็กอย่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น ใช้งานไม่บ่อย ควรเลือกพัดลมไอเย็นขนาดเล็กที่จุน้ำได้ประมาณ 3-6 ลิตร
- ห้องขนาดกลางอย่างการใช้งานในหอพัก คอนโด หรือห้องนั่งเล่น เปิดใช้งานต่อเนื่องค่อนข้างบ่อย ควรเลือกพัดลมไอเย็นขนาดกลางที่จุน้ำได้ประมาณ 8-15 ลิตร
- ห้องขนาดใหญ่ หรือใช้งานในเชิงพาณิชย์ ห้องประชุม โรงงาน ต้องเปิดใช้งานต่อเนื่องเป็นประจำ ควรเลือกพัดลมไอน้ําขนาดใหญ่ที่จุน้ำได้ประมาณ 22-45 ลิตร
เลือกแบบเคลื่อนที่สะดวก
อย่างที่ได้บอกไว้ว่าพัดลม ไอน้ํา จะมีทั้งแบบพัดลมไอน้ำ ตั้งพื้น และติดผนัง ถ้าติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรมหรือห้องขนาดใหญ่ที่ไม่ได้เคลื่อนย้ายกันบ่อยๆ ก็เลือกแบบติดผนังได้ แต่ถ้าต้องการใช้พัดลม ไอน้ํา ขนาดเล็กก็ควรเลือกแบบที่มีล้อเพื่อให้เคลื่อนย้ายได้ง่าย
เลือกตามฟังก์ชันเสริม
พัดลม ไอน้ํา หลายรุ่นจะมีฟังก์ชันเสริมต่างๆ ติดมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบฟอกอากาศ ระบบดักจับฝุ่น ระบบการไล่ยุงหรือแมลง การใช้ไอน้ำก็สามารถเลือกได้ว่าจะเปิดหรือปิด รวมถึงมีฟังก์ชั่นการควบคุมผ่านรีโมทหรือ Wifi ได้อีกด้วย
วิธีการดูแลรักษาพัดลมไอเย็น เพื่อยืดอายุการใช้งาน
การใช้งานพัดลมไอเย็นโดยทั่วไปจะเป็นการเติมน้ำเปล่าลงในถังเก็บน้ำภายในตัวเครื่อง จากนั้นก็เติมน้ำแข็งเพื่อเพิ่มความเย็น เปิดสวิทช์ เลือกความเร็วลม แล้วก็ใช้งานได้เลย แต่ด้วยรูปทรงของพัดลมไอเย็นที่มีลักษณะเป็นตู้ การทำความสะอาดจึงทำได้ยากกว่า ส่วนใหญ่มักทำความสะอาดได้แค่การเช็ดถูจากภายนอก ถอดชิ้นส่วนภายในออกมาทำความสะอาดไม่ได้ ดังนั้นการดูแลรักษาพัดลมไอเย็นหลักๆ แล้วจึงเป็นการทำความสะอาดถังเก็บน้ำและแผ่นกรอง

การทำความสะอาดแผ่นกรองสามารถถอดออกมาแล้วล้างน้ำเปล่าได้เลย เมื่อพักไว้จนแห้งแล้วก็ประกอบกลับเข้าไปใหม่ได้ ส่วนถังน้ำควรต้องเปลี่ยนน้ำใหม่ทุกวันเพื่อความสะอาด และพัดลมไอน้ํา ท่อตันได้ง่าย การเช็ดล้างควรทำทุกวันหรือไม่เกิน 2-3 วันต่อครั้งเพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของตะไคร่น้ำ เชื้อรา หรือเชื้อโรคต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งานพัดลมก็ควรเทน้ำออกให้หมด เช็ดให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในที่ห้อง ไม่มีความชื้น เมื่อนำมาใช้ใหม่ก็ควรล้างถังเก็บน้ำก่อนทุกครั้งเพื่อความสะอาด ถ้าทำความสะอาดสม่ำเสมอแล้วนอกจากจะได้สุขภาพที่ดีแล้วยังช่วยยืดอายุการใช้งานของพัดลมได้ด้วย
แนะนำ พัดลมไอน้ำ ราคาถูก รวมรุ่นยอดนิยมจาก FANPROTHAILAND
ใครที่กำลังมองหาว่าควรเลือกพัดลมไอเย็น ยี่ห้อไหนดี ที่ FANPROTHAILAND ของเราคือผู้จัดจำหน่ายพัดลมไอน้ำ ราคาถูก ยี่ห้อ Mitsubishi และ Kruger ซึ่งมีจุดเด่นทั้งด้านคุณสมบัติที่ดีและยังได้อายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทานตามมาตรฐานสากล นอกจากพัดลมไอเย็นแล้วทาง FANPROTHAILAND ก็ยังมีจำหน่ายทั้งพัดลมหลังคา พัดลมระบายอากาศ พัดลมยักษ์ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมพัดลมขนาดใหญ่ที่มีทั้งพัดลมบ้านและพัดลมอุตสาหกรรม มีบริการเสริมหลังการขายกันแบบครบวงจร สั่งซื้อพัดลมกับเราวันนี้ก็ยังมีราคาพิเศษให้ทุกเครื่องอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับพัดลมไอเย็น
พัดลมไอน้ำทำให้ปอดชื้นจริงไหม อันตรายต่อสุขภาพไหม?
พัดลมไอน้ำสามารถก่อให้เกิดความชื้นเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีผลต่อสุขภาพ ยกเว้นจะเปิดใช้งานในห้องปิดที่มีความชื้นสูงอยู่แล้วก็อาจทำให้มีความชื้นมากจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้งานได้
พัดลมไอเย็นและพัดลมไอน้ําต่างกันอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วพัดลมไอเย็นและพัดลมไอน้ําจะหมายถึงพัดลมแบบเดียวกัน แต่พัดลมไอเย็นรุ่นใหม่ๆ บางรุ่นก็ทำความเย็นได้โดยไม่ต้องอาศัยการสร้างละอองน้ำ ดังนั้นจึงอาจจะมีการแยกหมวดหมู่พัดลมไอเย็นออกจากพัดลมไอน้ำได้ในอนาคต
พัดลมไอน้ำเปลืองไฟไหม?
ถ้าเทียบกับพัดลมธรรมดาแล้วพัดลมไอน้ำจะเปลืองไฟมากกว่าพอสมควร พัดลมธรรมดาใช้ไฟประมาณ 45-80 วัตต์ ส่วนพัดลมไอน้ำจะใช้ 50-180 วัตต์ ขึ้นอยู่กับขนาด รุ่น และยี่ห้อของพัดลม
พัดลมไอน้ำเหมาะกับพื้นที่แบบไหนบ้าง?
เนื่องจากพัดลมไอน้ำมีหลายขนาดและหลายรุ่น จึงมีรุ่นที่เหมาะทั้งสำหรับการในบ้านและการใช้งานภายนอก ซึ่งจะต้องพิจารณาสถานที่เป็นหลัก จากนั้นค่อยเลือกพัดลมไอน้ำรุ่นที่เหมาะกับสถานที่นั้นมากที่สุด
ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยแค่ไหน?
การเปลี่ยนน้ำในถังของพัดลมไอน้ำควรทำทุกวัน และควรทำความสะอาดทุก 2-3 วัน เมื่อไม่ได้ใช้งานก็ควรเทน้ำทิ้งแล้วเช็ดให้แห้ง จากนั้นก็เก็บในที่แห้งปราศจากความชื้น
พัดลมไอน้ำทำให้พื้นเปียกไหม?
โดยทั่วไปแล้วละอองน้ำที่เกิดจากพัดลมไอน้ำจะไม่ได้มากพอให้พื้นเปียก และยังเป็นไอน้ำขนาดเล็กที่ไม่ทำให้สิ่งของเปียกได้ นอกจากจะเป็นพัดลมไอน้ำขนาดใหญ่ที่เน้นใช้งานภายนอกอาคารบางรุ่นก็อาจมีละอองน้ำขนาดใหญ่ที่ทำให้สิ่งของรอบๆ เกิดความชื้นสะสมได้ง่าย